จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

Nissan leaf รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภาค 2

อัตราการใช้พลังงานและราคาของ Nissan leaf
จากบทความที่แล้วน่ะครับผมก็ได้ไปศึกษา ราคาและข้อมูลต่อน่ะครับ

ถ้าอย่างนั้น...ชาร์จเต็มแล้ว วิ่งได้ไกลแค่ไหน?
ba
มีข้อมูลที่น่าสนใจในส่วนนี้จากเว็บไซท์ Nissan USA บอกไว้ ระยะทางที่ทำได้ เป็นผลทดสอบของ
 EPA(Environmental Protection Agency) หรือ สำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อม แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
 ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐฯ ที่ดูแล ออกกฏเกณฑ์ต่างๆ เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของพลเมือง
 การทดสอบอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงหรือพลังงาน เป็นหน่วยย่อยในส่วนของยานพาหนะนั่นเอง โดยผ
ลที่ได้มีดังนี้...
ลักษณะการขับความเร็วเฉลี่ยอุณหภูมิเฉลี่ยระบบควบคุมอุณหภูมิทำระยะทางประมาณ
ความเร็วคงที่ บนทางเรียบ อากาศเย็นสบาย60 กม./ชม.20 องศาปิด222 กิโลเมตร
แถบชานเมืองในวันสบายๆ38 กม./ชม.22 องศาปิด168 กิโลเมตร
เต็มที่บนทางด่วนในฤดูร้อน88 กม./ชม.35 องศาเปิด112 กิโลเมตร
ข้ามเมืองในวันที่อากาศร้อนจัด78 กม./ชม.43 องศาเปิด109 กิโลเมตร
ในเมือง การจราจรติดขัด อากาศเย็นจัด24 กม./ชม.-10 องศาเปิด (ฮีทเตอร์)99 กิโลเมตร
baนอกจากนี้ EPA ยังคำนวณเปรียบเทียบการใช้พลังงานไฟฟ้ากับน้ำมันเบนซิน ซึ่งตัวเลขที่ออกมาคือ 99 ไมล์
ต่อ 1 หนึ่งแกลลอน หรือประมาณ 50 กว่ากิโลเมตรต่อ 1 ลิตร

ba
และจากข้อมูลในตาราง ความเร็วเฉลี่ยที่ใช้ถือว่าช้ากว่าคนขับรถในบ้านเรา แต่ต้องบอกว่าเพียงพอสำหรับการ
ใช้งานจริงตามกฏหมาย (บ้านเราบางทีก็ขับกันโหดเกิน) ผู้เขียนไม่เคยขับรถในต่างประเทศ เลยไม่ทราบว่าความ
เร็วเฉลี่ยที่คนส่วนใหญ่ขับอยู่ที่เท่าไหร่ ส่วนในเรื่องการสิ้นเปลืองพลังงานจากการ ปิด-เปิด แอร์ หรือฮีทเตอร์ ก็พอ
เข้าใจกันได้ง่ายๆ ว่าการเปิดฮีทเตอร์ในขณะรถติด เป็นการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในการ 'อุ่นรถ' แทนการ
 'ขับเคลื่อนรถ' ระยะทางจึงสั้นลง

baเมื่อเอ่ยถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ความกังวลที่โผล่ขึ้นมาแวบแรกในความคิดของผู้คนส่วนใหญ่ก็คือเรื่องของ
 ระยะทาง นั่นหมายถึงมีบางสิ่งที่ขาดหายไป... แล้วอะไรคือสิ่งที่ควรจะซัพพอร์ทการเดินทางของรถยนต์พลังงาน
ไฟฟ้า จากจุด A ไปยังจุด B?

baสิ่งนั้นคือสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เรายังไม่เคยเห็นระหว่างการเดินทาง... สถานีชาร์จไฟ นั่นเอง
Nissan LEAF 2011
• ภาพจำลองการติดตั้งสถานีชาร์จพลังงานของ Epyon
800x
จุดแวะเติมพลัง
ba
เดือนสิงหาคม 2010 Portland General Electric และ NEC เปิดสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบควิกชาร์จ
 เป็นแห่งแรกที่รัฐโอเรกอน โดยมี Nissan LEAF เป็นนายแบบแสดงให้สื่อมวลชนชม สถานีชาร์จแห่งนี้ดูแล
และติดตั้งโดยTakasago Ltd. ใช้โปรโตคอลของ CHAdeMO ตั้งอยู่ในลานจอดรถของตึกเวิลด์ เทรด
 เซ็นเตอร์ในพอร์ทแลนด์ สามารถชาร์จแบบควิกชาร์จได้ภายใน 20 - 30 นาที (80% จากจำนวนเต็ม
) ซึ่งลานจอดรถนี้คิดค่าเข้าจอด 3 ดอลลาร์ ส่วนค่าชาร์จ...ฟรี

ba
ณ วันที่ผู้เขียนส่งต้นฉบับ หากไม่นับสถานีชาร์จไฟของ GM สำหรับ Volt และ สถานีทดสอบของ
 Better Placeที่กระจายออกไปทั่วโลกแล้ว Epyon Power คือบริษัทเอกชนแรก ที่ได้รับการรับรองจาก
CHAdeMO ให้เป็นผู้ดูแลเรื่องสถานีชาร์จไฟแรงสูง โดยในเวลานี้มีอยู่ 3 แบบหลัก คือ TERRA 50. X Base
 StationTERRA AC-DC Combo Post และ TERRA 50.1 Base Station ซึ่งแบบแรก จะเป็น
หัวจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่สามารถรองรับรถได้ครั้งละ 4 คัน ใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 15-20 นาที
 สามารถรองรับรถพลังงานไฟฟ้าที่ใช้โปรโตคอลของ CHAdeMO อย่าง Mitsubishi, Nissan, Subaru, Toyota
, Peugeot และ Citroen

baEpyon ให้รายละเอียดว่า ระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งอยู่ในสถานีชาร์จ สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์
 เพื่อทำการอัพเดทให้ฮาร์ดแวร์ 'เข้าใจ' โปรโตคอลของรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ผ่านซอฟต์แวร์ที่
พัฒนาโดย Epyon ชื่อHOUSTON API’s (Application Interfaces) ซึ่งลูกค้าที่ซื้อสถานีชาร์จของ Epyon
สามารถพะโลโก้ หรือออกแบบหน้าตา ไปจนถึงฟังก์ชั่นการทำงานของซอฟต์แวร์เองได้ เช่น Shell ซื้อไป
 ก็สามารถมี Welcome Logo เป็นของตัวเอง มีโหมดตั้งเวลาย่อย หรือเชื่อมต่อกับเว็บไซท์ของตัวเองแบบรีลไทม์

baและล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2010 ที่ผ่านมา Epyon ประสบความสำเร็จในการทดสอบชาร์จไฟ
 ให้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 3 คัน ที่มีโปรโตคอลต่างกัน (ยังเป็นโปรโตคอลของ CHAdeMo แต่ต่างเวอร์ชั่น)
 ได้สำเร็จ โดย 2 คันแรกเป็น Mitsubishi i-MiEV 2 เวอร์ชั่น อีกคันคือรถแวนพลังไฟฟ้าที่ใช้อินเตอร์เฟซของ
 Epyon เอง
Nissan LEAF 2011
• TERRA AC/DC แบบคอมโบ AC คือระบบชาร์จปกติ ส่วน DC คือควิกชาร์จ
800x
ก้าวล่วงสู่ยุคของ EV
ba
ราวเดือนพฤษภาคม 2010 ก่อนที่ LEAF จะเปิดตัวสู่ตลาดอเมริกา 6 เดือน นิสสัน ประกาศในงาน
 Detroit Economic Club ว่า ขณะนี้ยอดจอง LEAF มีเข้ามาแล้วถึง 13,000 ออเดอร์ นั่นหมายถึงมีลูกค้า
ที่สนใจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าถึงหมื่นกว่าราย และพร้อมที่จะซื้อมาใช้โดยยังไม่เคยได้สัมผัสรถเลย นอกจาก
ภาพจากสื่อต่างๆ

ba
จากนั้นในเดือนกรกฎาคม นิสสัน ยังเดินสายต่อในงาน Plug-in 2010 Conference และให้ความมั่นใจ
กับผู้ที่คิดจะครอบครอง LEAF ด้วยระยะเวลาการประกันแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 8 ปี หรือ 1.6 แสนกิโลเมตร
 เท่ากับข้อเสนอของGM ที่การันตีให้กับรถพลังงานไฟฟ้าของค่ายอย่าง Chevrolet Volt ซึ่งตรงนี้น่าจะกลาย
เป็นมาตรฐาน (หรือข้อเปรียบเทียบ) การประกันอายุแบตเตอรี่ ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคต

ba
นอกจากข้อเสนอในเรื่องประกันแบตเตอรี่ ปลายปี 2010 นิสสัน บุกตลาดอเมริกาเต็มตัว พร้อมๆ กับการเริ่ม
ส่งมอบรถ ด้วยกลยุทธ์ที่เรียบง่าย แต่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ด้วยการจัดทัวร์ทดสอบ Drive Electric
 Tour ให้ประชาชนทั่วไปได้ทดลองขับ เริ่มที่ ซานตา มอนิกา ในเดือนตุลาคม จากนั้นไล่ไปตามเมืองสำคัญ อย่าง
 ดัลลัส, ลอส แองเจลิส, ซีแอตเติล, วอชิงตัน รวมทั้งหมด 23 เมือง

baธันวาคม 2010 LEAF ทยอยออกจากโรงงาน โอปปามะ เมืองโยโคสุกะ และเริ่มจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น
 พร้อมๆ กับอเมริกา ในถิ่นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง แคลิฟอร์เนีย ไล่ไปโอเรกอน, อริโซนา, เทนเนสซี และ
วอชิงตัน จากนั้นเท็กซัส และฮาวาย จะได้รับรถในช่วงต้นปี 2011 ก่อนจะกระจายไปยังทั่วประเทศภายในสิ้นปี
 แล้วจึงเริ่มเดินทางไปยังฝั่งยุโรป

baนิสสัน คาดว่าโรงงานโอปปามะ จะมีกำลังผลิต LEAF ได้ประมาณ 50,000 คันต่อปี ส่วนราคาจำหน่ายอยู่
ที่ประมาณ25,000 - 33,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8 แสนกว่าๆ - 1 ล้านบาทนิดๆ

ที่มา : http://www.motortrivia.com

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

Nissan leaf รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

NISSAN LEAF คือ ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพัฒนาเพื่อตลาดมวลชนคันแรกของโลก ของ Nissan  มีคุณสมบัติโดดเด่น คือ
-ไร้มลภาวะ (ZERO Emission)
-ประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง
-“การเชื่อมต่อ” ที่ถึงกันตลอดเวลา (GPS)
  
ขุมพลังของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ระดับแนวหน้า เพื่อการ"สร้างมลภาวะให้เป็น-ศูนย์ (ZERO Emission)”

นิสสัน ลีฟ ใหม่ ได้รับการออกแบบเพื่อให้"ประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่ซ้ำใคร"ด้วยประสิทธิภาพทางด้านอัตราเร่ง ความเงียบสงบและสมรรถนะทางด้านการควบคุมรถ โดยกุญแจสำคัญของขุมพลังนี้ รวมถึง:
แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ความจุสูง (เก็บพลังงานไฟฟ้า)
•แบตเตอรี่มีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพของรถ รวมถึงราคา และความสะดวกสบายภายใน  นิสสัน ลีฟ จึงนำแบตเตอรี่ชนิด ลิเธียม ไอออน ที่มีน้ำหนักเบา กะทัดรัด และมีความจุมากกว่า 2 เท่า หากเทียบกับแบตเตอรี่ของพาหนะแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วไปมาใช้ (เช่นเดีวกับ Nissan Hypermini ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2000) โดยมีความจุถึง 24 กิโลวัตต์ ต่อชั่วโมง ให้พลังงานมากกว่า 90 กิโลวัตต์ ต่อชั่วโมง และสามารถเดินทางได้ระยะทางไกลถึง 200 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟจนเต็มหนึ่งครั้ง (ในโหมด JC08)

•แบตเตอรี่ ที่ผ่านเทคโนโลยีการออกแบบชั้นสูง ของนิสสัน ลีฟ มีความบางโครงสร้างของเซลล์แบบแผ่นมีขนาดกะทัดรัด รูปทรงที่เรียบง่ายของแต่ละเซลล์ ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของแบตเตอรี่ ช่วยให้แบตเตอรี่มีความจุสูง พร้อมกับพื้นที่จัดเก็บที่ออกแบบให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่กระทบต่อความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร เนื่องจากเซลล์มีพื้นที่ผิวหน้าขนาดใหญ่ และมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม จึงมั่นใจได้ในเสถียรภาพการทำงาน ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ส่วนโครงสร้างยังช่วยลดต้นทุน เพราะความซับซ้อนของชิ้นส่วนมีน้อย
•เนื่องจากวัสดุแมงกานีส ซึ่งถูกใช้เป็นขั้วไฟฟ้า (บวก) เป็นทรัพยากรที่มีอยู่มากมาย และด้วยโครงสร้างแบบ Spinel ที่มีความมั่นคง จึงมีราคาถูกและมั่นใจได้
•ชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่บริเวณใต้บริเวณพื้นรถ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของตัวถัง ให้สมดุลน้ำหนักที่เหนือกว่า และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้าง ซึ่งส่วนนี้มีผลในเรื่องของการตอบสนองต่อการควบคุมรถมอเตอร์ไฟฟ้า
นิสสัน ลีฟ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า  รูปที่ 4
•มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC 3 เฟส ให้กำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร สร้างแรงบิดสูงสุดตั้งแต่เริ่มออกตัว ด้วยเทคโนโลยีระบบควบคุมมอเตอร์ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ นิสสัน มอเตอร์ ทำให้อัตราเร่งมีความต่อเนื่อง และให้พลังในทันที ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหาได้ในพาหนะที่ใช้น้ำมันทั่วไป ประสิทธิภาพด้านอัตราเร่งของนิสสัน ลีฟ ในช่วงความเร็วต่ำไปจนถึงช่วงกลาง เทียบได้กับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ขนาดความจุ 3.0 ลิตร และทำความเร็วสูงสุดได้ 145 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
•ต่างจากเครื่องยนต์เบนซิน เพราะไม่มีแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ผนวกกับเทคโนโลยีฉนวนกันเสียงที่เหนือกว่า จึงทำให้นิสสัน ลีฟ  บรรลุถึงการขับเคลื่อนที่แสนเงียบสงบ
•เมื่อรถชะลอความเร็วลง พลังงานไฟฟ้าซึ่งถูกสร้างขึ้นจากแรงเบรคจะนำกลับมาใช้ใหม่

ระบบอินเวอร์เตอร์
•ระบบอินเวอร์เตอร์ทำหน้าที่ควบคุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า โดยการควบคุมกระแส
ไฟรวมถึงการแปลงไฟจากกระแสตรงให้เป็นกระแสสลับ ซึ่งระบบทั้งหมดรวมถึงเพาเวอร์โมดูลถูกพัฒนาโดย นิสสัน
DC/DC คอนเวอร์เตอร์
•เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่นระบบเครื่องเสียง ไฟหน้า และระบบนำทาง ซึ่งใช้ไฟ 12 โวลต์ ในการทำงาน กำลังไฟฟ้าที่ออกมาจากแบตเตอรี่ แบบลิเธียมไอออน ขนาด  360 โวลต์ เพื่อใช้สำหรับการขับเคลื่อน จะถูกลดลงด้วยระบบแปลงไฟแบบ DC / DC คอนเวอร์เตอร์ โดยชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ 12 โวลต์

ระบบเกียร์แบบ Electric Shift
•ระบบ Electric shift แบบ mouse-type ที่ใช้งานอย่างง่ายดาย เพียงขยับข้อมือโดยวางฝ่ามือไว้บนอุปกรณ์ควบคุม  ซึ่งเป็นครั้งแรกของนิสสันกับระบบควบคุมแบบ by-wire system ซึ่งให้ความรู้สึกถึงการควบคุมที่แผ่วเบา

ระบบเสียง Start-up Sound
•เมื่อเปิด Power Switch และพาหนะพร้อมที่จะทำงาน เสียงที่ฟังดูไพเราะ (แทนที่จะเป็นเสียงเครื่องยนต์ที่รุนแรง) จะแจ้งให้ผู้ขับทราบถึงความพร้อมของตัวรถ ซึ่งผู้ขับสามารถสลับเสียงได้สามรูปแบบแตกต่างกันอย่างง่ายดาย ด้วยมาตรวัดแบบ Twin Digital Meter ผู้ขับจะรู้สึกได้ถึงการต้อนรับอันเป็นพิเศษของ EV

วิธีการชาร์จไฟ และอุปกรณ์
•ที่ชาร์จไฟติดตั้งอยู่ที่ฝากระโปรงหน้าสำหรับ"การชาร์จปกติ" รวมถึง"ควิกชาร์จ"
•ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง หลังจากไฟเตือนให้ชาร์จแบตเตอรี่ สำหรับการชาร์จไฟ 200 โวลต์ แบบการชาร์จปกติ และแบตเตอรี่สามารถชาร์จได้ถึง 80% ภายใน 30 นาทีโดยแบบ ควิกชาร์จ
•สายชาร์จขนาดความยาว 7.5 เมตร สำหรับการชาร์จไฟ 200 โวลต์ แบบปกติ มีให้เป็นมาตรฐาน
•มั่นใจได้ในการชาร์จไฟที่ปลอดภัย ด้วยสายชาร์จและช่องเสียบแบบกันน้ำ และติดตั้งช่องระบายน้ำทิ้งที่อุปกรณ์เชื่อมต่อ และที่ช่องเสียบ ในกรณีที่น้ำเข้า และทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร กล่องควบคุมซึ่งถูกติดตั้งไว้ภายในสายชาร์จจะทำการตัดไฟฟ้าทันที


ระบบ EV-IT
•ระบบ global common ICT (เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) ระบบซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ EV ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับนิสสัน ลีฟ ซึ่งไม่เพียงแต่มีระบบ on-board สนับสนุนระหว่างการขับขี่ตลอดเวลา ซึ่งเชื่อมต่อบนจอ Navigation display  แต่ยังสนับสนุนการขับขี่ EV แม้กระทั่งก่อนที่ผู้ขับจะขึ้นรถและหลังออกจากรถ โดยการเข้าถึงเว็บไซต์โดยเฉพาะสำหรับเจ้าของ EV ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (รวมถึง smart phones) หรือคอมพิวเตอร์ 
•ระบบ ICT นี้ ให้บริการเฉพาะสำหรับ EV ซึ่งรวมถึงประวัติการขับขี่ และสภาพการใช้งานของแบตเตอรี่ การควบคุมระยะไกลสำหรับการชาร์จไฟ การควบคุมอุณหภูมิภายในรถ การบริหารจัดการด้านพลังงาน ในยุคพลังงานรูปแบบใหม่ที่จะมาทดแทน
•Nissan CARWINGS Data Center ศูนย์ควบคุมข้อมูล จะติดต่อสื่อสารกับระบบนำทางภายในรถยนต์ผ่านทางระบบ onboard Telematics Communication Unit (TCU) ด้วยระบบ ICT เจ้าของนิสสัน ลีฟ จะมีการเชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลากับข้อมูลที่มีความจำเป็น เพื่อให้ EV ทำงานได้อย่างสูงสุด

บริการ Onboard EV service (ขณะขับรถ)
1.ฟังก์ชั่น "แผนที่แสดงผลพื้นที่ที่สามารถเดินทางไปถึง" : เพื่อตรวจสอบระยะทางที่นิสสัน ลีฟ สามารถเดินทางไปถึงได้ สั่งการด้วยสวิทซ์บริเวณพวงมาลัย หรือโดยการสัมผัสเพียงครั้งเดียวบนหน้าจอ
2.ฟังก์ชั่นคำแนะนำ : บอกถึงสถานีชาร์จไฟผ่านทางระบบนำทาง เมื่อความจุไฟฟ้าที่เหลือของแบตเตอรี่ลดลง
3.ฟังก์ชั่นอัพเดตจุดให้บริการชาร์จไฟ : ปรับปรุงข้อมูลให้โดยอัตโนมัติเพื่อแสดงจุดสถานีให้บริการชาร์จไฟใหม่ๆ
4.ฟังก์ชั่น ตัวตั้งเวลาชาร์จไฟ : สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตลอดเวลา ตามความต้องการของเจ้าของรถ เช่นในช่วงเวลาดึก เมื่ออัตราค่าไฟฟ้าถูกลง

บริการ Offboard EV service (ก่อนและหลังการขับขี่)
1.ฟังก์ชั่น “ตรวจสอบแบตเตอรี่" : ตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่ที่กำลังชาร์จ ฟังก์ชั่น"การควบคุมระยะไกล" : ตรวจสอบสถานะของการชาร์จไฟ ตัวควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่ประมาณเวลาที่จะเสร็จสิ้นการชาร์จ และแสดงระยะการเดินทางที่เป็นไปได้ การดูแลรักษาแบตเตอรี่ และวินิจฉัยสำหรับปัญหาที่เกิด
2.ฟังก์ชัน "การควบคุมอุณหภูมิระยะไกล" : ชุดควบคุมเครื่องปรับอากาศระยะไกลผ่านทางรีโมทคอนโทรล สามารถเปิดระบบปรับอากาศให้ทำงานได้ก่อนที่คนขับจะขึ้นรถ
3.ฟังก์ชัน "จำลองอัตราการใช้ไฟฟ้า" : ตรวจสอบค่าใช้จ่ายว่าใช้ไปเท่าไหร่สำหรับค่าไฟ หลังการขับขี่ ฟังก์ชัน "คำนวณ" : คำนวณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) ว่าลดลงไปเท่าไหร่ ด้วยการขับรถพลังานไฟฟ้า
4.ฟังก์ชั่น "การจัดอันดับ" : เจ้าของนิสสัน ลีฟ ทั่วโลก สามารถแข่งขันกันเองได้ ด้วยปริมาณการใช้ไฟฟ้า ระยะการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้า และการชาร์จที่เกิดขึ้นจากการเบรค
5.ฟังก์ชั่น “วางแผนการขับขี่” : สร้างแผนการขับรถ ในขณะที่ตรวจสอบระยะทางการขับขี่ที่เป็นไปได้ รวมถึงตำแหน่งของสถานีที่ให้บริการชาร์จ


ก็ลองติดตามกันต่อไปน่ะครับว่า  Nissan leaf จะมาขายที่บ้านเราเมื่อไหร่ และราคาเท่าไหร่ครับ